บทเรียน 0-3 V2 ปีที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 02 11 01-02 11 04
โครงร่าง 02 11 01 ชั้น 0-3 ปี (Parents Service) V.2
แกนกลาง ที่ 2. บุคคลในพระคัมภีร์
เป้าหมาย สำนึกกลับใจตนเองใหม่ ให้รู้พระประสงค์ของพระเจ้า (ป.3 02 09 02)
ผลพระวิญญาณ ความกรุณา
หัวข้อหลัก ดาวิด(มิตรภาพกับโยนาธาน)
บทเรียน 1ซมอ.20
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
- เป็นเพื่อนกันต้องพูดความจริง (ข้อ 3)
- สัญญาระหว่างเพื่อนมีความผูกพัน (ข้อ 15, 17)
- เพื่อนรักต้องให้ความเคารพกัน (ข้อ 41)
จุดเชื่อมโยง เตรียมข้อมูลหลากหลายของเด็กๆ ในชั้น อาจเป็นวันเกิด บ้านเลขที่ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เช่น ใครมีหมายเลข 2 ในเบอร์โทรศัพท์ให้ก้าวออกมา 1 ก้าว ฯลฯ เริ่มจากให้ทุกคนยืนเรียงหน้ากระดาน เมื่ออ่านข้อมูลที่เป็นความจริงของใคร ให้คนนั้นก้าวออกจากแถว 1 ก้าว ใครอยู่หน้าสุด เป็นผู้ชนะ เกริ่นเข้าสู่บทเรียน การพูดความจริงและทำตามที่ตกลงกันไว้ของดาวิดและโยนาธาน
บอกเล่า 1. เป็นเพื่อนกันต้องพูดความจริง (1ซมอ.20:3) เมื่อซาอูลปองร้ายดาวิดจนต้องหลบหนี โยนาธานยังเข้าใจว่าบิดาตนไม่ปิดบังอะไรไว้จากตน แต่ดาวิดก็กล้าที่จะบอกโยนาธานว่า แต่ดาวิดสาบานว่า “เสด็จพ่อของท่านทรงทราบแน่ว่า ข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานของท่าน และพระองค์คงดำริว่า ‘อย่าให้โยนาธานรู้เรื่องนี้เลย เกรงว่าเขาจะเศร้าใจ’ แต่ที่จริงก็คือ พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด และท่านมีชีวิตแน่ฉันใด ระหว่างข้าพเจ้ากับความตายก็ยังเหลืออีกเพียงก้าวเดียว” ไม่ใช่ด้วยความเกรงใจและทำให้ความจริงถูกปิดบังไว้
- สัญญาระหว่างเพื่อนมีความผูกพัน (1ซมอ. 20:15, 17) ขออย่าตัดความรักมั่นคงของท่านที่มีต่อพงศ์พันธุ์ของฉันนิรันดร และอย่าหยุดแม้เมื่อพระยาห์เวห์ทรงกำจัดศัตรูทั้งสิ้นของดาวิดจากพื้นพิภพแล้ว” โยนาธานจึงทำพันธสัญญากับพงศ์พันธุ์ของดาวิดว่า “ขอพระยาห์เวห์ทรงแก้แค้นพวกศัตรูของดาวิด” และโยนาธานทรงให้ดาวิดปฏิญาณอีกครั้งหนึ่งโดยความรักของท่านที่มีต่อเขา เพราะท่านทรงรักเขาอย่างกับรักชีวิตของท่านเอง
- เพื่อนรักต้องให้ความเคารพกัน (1ซมอ.20:41) พอโยนาธานทราบแน่แล้วว่าบิดาตั้งใจฆ่าดาวิด จึงส่งข่าวให้ดาวิดทราบตามวิธีที่ตกลงกันเมื่อเด็กนั้นไปแล้ว ดาวิดก็ลุกขึ้นมาจากทางด้านข้างของกองหินซบหน้าลงถึงดิน แล้วย่อตัวลงสามครั้ง และทั้งสองก็จูบกัน และร้องไห้กัน แต่ดาวิดร้องไห้มากกว่า
ป้ายชี้ทางไปถึงพระเยซู พระเยซูทรงบอกความจริง ลก. 18:29-30 พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่สละบ้าน หรือภรรยา หรือพี่น้อง หรือบิดามารดา หรือบุตรเพราะเห็นแก่แผ่นดินของพระเจ้า จะได้รับผลตอบแทนหลายเท่าในยุคนี้ และในยุคหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์”
ข้อพระคัมภีร์ท่องจำ สภษ. 23:23 จงซื้อความจริงและอย่าขายไปเสีย จงซื้อปัญญา คำสั่งสอน และความรอบรู้พยานที่พูดความจริงเป็นผู้ช่วยชีวิต แต่ผู้ที่หายใจออกมาเป็นคำมุสาก็เป็นคนขายเพื่อน
ประยุกต์ใช้กับตนเอง สัญญาที่มีต่อเพื่อนนั้นมีความสำคัญ เพราะแสดงว่า มิตรภาพที่มีต่อกันนั้น มุ่งเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัวหรือมีความกรุณาต่อกัน
ตอบสนอง เรียนรู้ ประโยชน์ของการมีเพื่อนที่รักกันอย่างแท้จริง
โครงร่าง 02 11 02 ชั้น 0-3 ปี (Parents Service) V.2
แกนกลาง ที่ 2. บุคคลในพระคัมภีร์
เป้าหมาย รับรู้ความแตกต่างของตนและผู้อื่น เพื่อทราบความเทียมเท็จ (ป.2 02 10 04)
ผลพระวิญญาณ ความสุภาพ
หัวข้อหลัก ดาวิด(ไว้ชีวิตซาอูลที่เอนเกดี)
บทเรียน 1ซมอ.24
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
- อย่าทำลายผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้ (ข้อ 6)
- ไม่แก้แค้นศัตรู แม้มีโอกาส (ข้อ 11)
- พระพรจะกลับมาสนองผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า ทำให้ศัตรูหันมาอวยพรเขา (ข้อ 19-20)
จุดเชื่อมโยง บอกให้เด็กอยู่ในห้องตามลำพัง และสัญญาว่าจะนั่งเรียบร้อยไม่คุยหรือเล่นกัน หลังจากออกจากห้องไป 5 นาที กลับมาสอบถามมีใครซื่อสัตย์ตามที่สัญญาให้ไว้บ้าง เกริ่นเข้าความยำเกรงพระเจ้าที่ดาวิดไม่ทำร้ายซาอูล
บอกเล่า 1. อย่าทำลายผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้ (ข้อ 6) ซาอูลไล่ตามดาวิดที่เอนเกดีและเข้าไปในถ้ำที่ดาวิดหลบอยู่ พรรคพวกของดาวิดจะถือโอกาสสังหารซาอูล แต่ดาวิดกลับปฎิเสธโอกาสนั้น 1ซมอ. 24:6 ท่านพูดกับพวกของท่านว่า “ขอพระยาห์เวห์ทรงห้ามข้าพเจ้าไม่ให้ทำสิ่งนี้ต่อเจ้านายของข้าพเจ้า ผู้ที่พระยาห์เวห์ทรงเจิมไว้ คือที่จะเหยียดมือออกต่อสู้กับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ที่พระยาห์เวห์ทรงเจิมไว้”
- ไม่แก้แค้นศัตรู แม้มีโอกาส (ข้อ 11) ดาวิดไม่แก้แค้นศัตรู แม้มีโอกาส 1ซมอ. 24:11 ทอดพระเนตรเถิด เสด็จพ่อของข้าพระบาท ขอทอดพระเนตรชายฉลองพระองค์ในมือของข้าพระบาท เพราะข้าพระบาทตัดชายฉลองพระองค์ออก และไม่ได้ประหารฝ่าพระบาทเสีย ขอฝ่าพระบาททรงทราบและทอดพระเนตรเถิดว่า ในมือของข้าพระบาทไม่มีความผิดหรือการกบฏ ข้าพระบาทไม่ได้ทำบาปต่อฝ่าพระบาท แม้ว่าฝ่าพระบาทกำลังทรงล่าชีวิตของข้าพระบาทเพื่อจะทำลายเสีย
- พระพรจะกลับมาสนองผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า ทำให้ศัตรูหันมาอวยพรเขา (1ซมอ.24:19-20) เพราะว่าใครพบศัตรูของตน เขาจะปล่อยไปโดยดีหรือ? ดังนั้นขอพระยาห์เวห์ประทานสิ่งที่ดีแก่เจ้า สนองการที่เจ้าได้ทำแก่ข้าในวันนี้ บัดนี้ ดูเถิด ข้ารู้แล้วว่า เจ้าจะเป็นพระราชาแน่ และราชอาณาจักรอิสราเอลจะตั้งมั่นอยู่ในมือของเจ้า
ป้ายชี้ทางไปถึงพระเยซู พระเยซูทรงเป็นที่ชอบของพระเจ้า มธ. 17:5 เปโตรทูลยังไม่ทันขาดคำก็เกิดมีเมฆสุกใสมาปกคลุมพวกเขาไว้ แล้วมีพระสุรเสียงออกมาจากเมฆนั้นว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก จงเชื่อฟังท่านเถิด”
ข้อพระคัมภีร์ท่องจำ สดด. 105:15 “อย่าแตะต้องผู้ที่เราเจิมไว้ อย่าทำอันตรายผู้เผยพระวจนะของเรา”
ประยุกต์ใช้กับตนเอง รักษาการเชื่อฟังพระเจ้าเสมอ แม้จะมีโอกาสไม่ทำตามพระประสงค์ของพระองค์
ประเมินผล เรียนรู้ ความยำเกรงพระเจ้าของดาวิดแสดงออกด้วยการกระทำ
โครงร่าง 02 11 03 ชั้น 0-3 ปี (Parents Service) V.2
แกนกลาง ที่ 2. บุคคลในพระคัมภีร์
เป้าหมาย รับรู้ความแตกต่างของตนและผู้อื่น เพื่อทราบความเทียมเท็จ (ป.2 02 11 01)
พระวิญญาณ ความสุภาพ
หัวข้อหลัก ซาโลมอน(ขอสติปัญญา)
บทเรียน 1พกษ.3:3-28
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
- การขอพรที่ถูกต้อง (ข้อ 9)
- พระเจ้าทรงให้มากกว่าที่ทูลขอ (ข้อ 12-13)
- ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าจะได้รับเกียรติจากผู้อื่น (ข้อ 28)
จุดเชื่อมโยง “ใครขโมยเงินของแม่ค้าร้านขายปาท่องโก๋” เช้าวันหนึ่งในตลาดประจำหมู่บ้าน ตำรวจพบแม่ค้าขายปาท่องโก๋กำลังทะเลาะกับเด็กกลุ่มหนึ่ง แม่ค้าบอกกับตำรวจว่า เด็กคนหนึ่ง 3 คนนี้ขโมยเงินจากตะกร้าใส่เงินที่เธอขายปาท่องโก๋ ตำรวจจึงขอดูตะกร้าใส่เงินของแม่ค้า เมื่อเขาดูเรียบร้อยแล้ว ก็ให้แม่ค้าหยิบขันใส่น้ำมาวางกลางโต๊ะ และให้เด็กทั้ง 3 คน ล้วงเงินของตนมาใส่ในขันน้ำนั้น เมื่อหย่อนครบทั้ง 3 คนแล้ว ตำรวจก็สามารถชี้ตัวคนขโมยออกมาให้แม่ค้าได้ นั่นเป็นเพราะเงินที่ใส่อยู่ในตะกร้าเก็บเงินของแม่ค้านั้น มีความมันของน้ำมันจากการหยิบปาท่องโก๋ขาย คนไหนหย่อนเงินลงไปในขันน้ำแล้ว ปรากฎมีคราบน้ำมันลอยขึ้นมา ตำรวจจึงรู้ได้ทันทีว่า เป็นใครที่ขโมยเงินของแม่ค้าปาท่องโก๋ไป เกริ่นเข้าเรื่องการของสติปัญญาจากพระเจ้าของกษัตริย์ซาโลมอน
บอกเล่า 1. การขอพรที่ถูกต้อง (1พกษ3:9) เมื่อพระเจ้าเสด็จมาหากษัตริย์ซาโลมอน และให้ทูลขอพร ซาโลมอนได้ขอสติปัญญาเพื่องานที่พระเจ้าทรงมอบหมาย 1พกษ. 3:9 ฉะนั้นขอพระองค์ประทานความคิดความเข้าใจแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อจะวินิจฉัยประชากรของพระองค์ เพื่อจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างดีกับชั่วได้ เพราะใครจะสามารถวินิจฉัยประชากรมากมายนี้ของพระองค์ได้?’
- พระเจ้าทรงให้มากกว่าที่ทูลขอ (1พกษ.3:12-13) การทูลขอที่ไม่เห็นแก่ตัวจะได้รับการอวยพรเพิ่มเติมอีก ข้อ 12 นี่แน่ะ เราจะทำตามคำของเจ้า นี่แน่ะ เราจะให้ใจที่ประกอบด้วยปัญญาและความเข้าใจ ซึ่งไม่มีใครที่เป็นอยู่ก่อนเจ้าเหมือนเจ้า และจะไม่มีใครที่ขึ้นมาภายหลังเจ้าเหมือนเจ้า เราจะให้สิ่งที่เจ้าไม่ได้ขอแก่เจ้าด้วย ทั้งความมั่งคั่งและเกียรติยศ เพื่อจะไม่มีกษัตริย์องค์ใดเปรียบเทียบกับเจ้าได้ตลอดวันเวลาทั้งสิ้นของเจ้า
- ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าจะได้รับเกียรติจากผู้อื่น (1พกษ.3:28) แล้วซาโลมอนได้วินิจฉัยคดีด้วยพระปัญญา เมื่อคนอิสราเอลทั้งสิ้นทราบเรื่องการพิพากษา ซึ่งพระราชาทรงวินิจฉัยนั้น เขาทั้งหลายก็เกรงกลัวพระราชา เพราะเขาเห็นว่า พระปัญญาของพระเจ้าอยู่ในพระองค์ ที่จะทรงวินิจฉัยให้ความยุติธรรม กรณีหญิงสองคนแย่งชิงทารก
ป้ายชี้ทางไปถึงพระเยซู พระเยซูทรงมีสิทธิอำนาจจากพระเจ้า มก. 1:27 คนทั้งหลายก็ประหลาดใจถามกันว่า “นี่มันอะไรกัน ต้องเป็นคำสอนใหม่ที่ประกอบด้วยสิทธิอำนาจแน่ๆ เขาสั่งได้แม้แต่ผีโสโครกและพวกมันก็ยอมเชื่อฟังเขา”
ข้อพระคัมภีร์ท่องจำ สภษ. 8:11 เพราะปัญญาดีกว่าทับทิม และทุกสิ่งที่เจ้าปรารถนาเปรียบกับปัญญาไม่ได้เลย
ประยุกต์ใช้กับตนเอง ทูลขอพระพรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นเสมอ
ตอบสนอง เรียนรู้ เราควรขอสิ่งดีไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อผู้อื่น
โครงร่าง 02 11 04 ชั้น 0-3 ปี (Parents Service) V.2
แกนกลาง ที่ 2. บุคคลในพระคัมภีร์
เป้าหมาย สำนึกกลับใจตนเองใหม่ ให้รู้พระประสงค์ของพระเจ้า (ป.3 02 09 04)
ผลพระวิญญาณ ความกรุณา
หัวข้อหลัก เอลียาห์(ภูเขาคารเมล)
บทเรียน 1พกษ.18:20-46
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
- จงเลือกนับถือพระเจ้าที่แท้จริง (ข้อ 21)
- เมื่อเผชิญวิกฤติให้คงการรับใช้พระเจ้า (ข้อ 36)
- พระเจ้าเที่ยงแท้มีเพียงพระองค์เดียว (ข้อ 38)
จุดเชื่อมโยง สิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ อ่างกะลามัง 1 ใบ ก้อนหิน 12 ก้อน น้ำเปล่าสำหรับรดก้อนหิน 3 ครั้ง ไม้ขีดไฟ 1 กลัก จำลองแท่นบูชาหินที่เอลียาห์ทำ โดยวางก้อนหินซ้อนกันลงในอ่างกะลามัง รินน้ำลงไปบนก้อนหินทุกก้อน จนน้ำหมด แล้วจุดไม้ขีดไฟลงบนก้อนหินและบนน้ำ ให้เห็นว่าไฟไม่สามารถติดบนน้ำได้ เกริ่นเข้าเรื่องเอลียาห์ที่ภูเขาคารเมล
บอกเล่า เมื่อเอลียาห์ได้พยากรณ์ว่าจะเกิดความแห้งแล้งไม่มีฝนตกในแผ่นดินอิสราเอลในบทที่ 17 แล้วพระเจ้าได้ใช้เอลียาห์ไปปรากฎต่อกษัตริย์อาหับเพื่อพยากรณ์การนำฝนมาจากพระเจ้า เอลรียาห์ได้ท้าประลองกับบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล 450 ที่ภูเขาคารเมล โดยตั้งแท่นบูชาพระของแต่ละฝ่าย เพื่อพิสูจน์พระเจ้าเที่ยงแท้ ปรากฎว่า เอลียาห์ทูลขอพระยาห์เวห์ให้ไฟของพระองค์ตกลงมาและเผาเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และฟืน หิน และผงคลี และลามเลียน้ำในร่องจนแห้ง ประชาชนทั้งหมดจึงเห็นว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่ผู้เดียวเท่านั้น แล้วความแห้งแล้งก็ได้สิ้นสุดลง เมื่อพระเจ้าได้ทรงนำฝนมาตกในแผ่นดินอิสราเอลอีกครั้ง
- จงเลือกนับถือพระเจ้าที่แท้จริง 1พกษ. 18:21 และเอลียาห์ก็เข้ามาใกล้ประชาชนทั้งปวง กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจะลังเลใจอยู่ระหว่างสองฝ่ายนี้นานเท่าไร? ถ้าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า จงติดตามพระองค์ แต่ถ้าพระบาอัลเป็น ก็จงตามท่านไปเถิด” แต่ประชาชนไม่ตอบท่านสักคำเดียว
- เมื่อเผชิญวิกฤติให้คงการรับใช้พระเจ้า 1พกษ. 18:36 และต่อมาเมื่อถึงเวลาถวายบูชา เอลียาห์ผู้เผยพระวจนะก็เข้ามาใกล้ ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล ขอให้เขาทราบเสียทั่วกันในวันนี้ว่า พระองค์คือพระเจ้าในอิสราเอล และข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และข้าพระองค์ได้ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นตามพระดำรัสของพระองค์
- พระเจ้าเที่ยงแท้มีเพียงพระองค์เดียว 1พกษ. 18:38 แล้วไฟของพระยาห์เวห์ก็ตกลงมาและเผาเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และฟืน หิน และผงคลี และลามเลียน้ำในร่องจนแห้ง
ป้ายชี้ทางไปถึงพระเยซู พระเยซูทรงเป็นการอัศจรรย์ของพระเจ้า รม. 1:4 แต่ฝ่ายจิตวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์นั้นทรงปรากฏด้วยฤทธานุภาพว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า โดยการเป็นขึ้นมาจากความตาย คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ข้อพระคัมภีร์ท่องจำ สดด. 86:10 เพราะพระองค์ทรงยิ่งใหญ่และทรงทำการอัศจรรย์ต่างๆ พระองค์แต่ผู้เดียวทรงเป็นพระเจ้า
ประยุกต์ใช้กับตนเอง ยืนหยัดในการเชื่อฟังรับใช้พระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่เพียงผู้เดียว แม้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นก็ไม่เปลี่ยนความซื่อสัตย์ที่มีต่อพระองค์
ตอบสนอง เรียนรู้ ความกล้าหาญที่จะไว้ใจพระเจ้าในยามวิกฤติ